เศรษฐกิจโลก 1000 ปี Can Be Fun For Anyone
เศรษฐกิจโลก 1000 ปี Can Be Fun For Anyone
Blog Article
เป็นหนังสือที่อ่านง่าย กระชับ ไม่เอาตัวเลขมาโชว์มากมายให้ปวดหัว
งานนิทรรศการโลก นำมาสู่ความกระตือรือร้นในการแข่งขันประดิษฐ์คิดค้นของผู้คนในประเทศอุตสาหกรรมทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทุกคนทุ่มเทพยายามเพื่อต่อยอดจากองค์ความรู้สู่นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลก อเล็กซานเดอร์เกรแฮมเบลล์ เดิมที่ตั้งใจจะประดิษฐ์เครื่องมือสำหรับช่วยให้ผู้คนหูหนวกสามารถได้ยินเหมือนคนปกติแต่กลับค้นพบวิธีส่งเสียงตามสายพานลวดทองแดง เกิดเป็นการประดิษฐ์โทรศัพท์ไปในที่สุด
ความขัดแย้งระหว่างชนชั้น นายทุนและกรรมาชีพ นำไปสู่การเคลื่อนไหวของสังคมนิยม มี คาร์ล มาร์กซ์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมัน สร้างงานเขียนที่มีอิทธิพล ปลดพลังมวลมหาประชาชนขึ้นมา ให้ปกครองแทนผู้นำเดิม
เล่มแรกที่อ่านจบในปีนี้และในรอบสามเดือน :) ถือเป็นประสบการณ์การอ่านที่ไม่เลวเหมือนกัน เล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังอยากได้ประวัติศาสตร์โลกแบบย่อที่เน้นด้านพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ส่วนตัวคิดว่าบางบทน่าสนใจมาก แต่บางบทก็ตัดจบดื้อๆไปหน่อย สไตล์การเขียนอ่านง่าย แบบเขียนโพสต์ในเฟสบุคเลย ข้อมูลย่อยมาให้แล้ว อาจจะไม่ได้ละเอียดเท่าไร แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ไปหาอ่านต่อเองได้ไม่ยากนัก แค่สนใจประวัติศาสตร์ทั่วๆไป ไม่ต้องสนใจเรื่องเศรษฐกิจเป็นพิเศษ ก็อ่านเรื่องนี้ได้เรื่อยๆ แบบสบายๆเลย
เกี่ยวกับสำนักฯ สำนักหอสมุดและทรัพยากรสารสนเทศ บุคลากร บุคลากร สำนักหอสมุดและทรัพยากรสารสนเทศ
แต่ถ้าพูดถึงเนื้อหาก็ได้เต็มๆ แหละ อ่านเล่มเดียวก็เห็นภาพใหญ่ของประวัติศาสตร์ช่วงพันปีที่ผ่านมา ย้ำว่าประวัติศาสตร์นะ เพราะเศรษฐกิจพูดถึงอยู่แค่สามสี่ร้อยปีก่อนหน้าอย่างที่บอกไป
ตั้งและอาณานิคมของมหาอำนาจในยุโรปเริ่มกลายเป็นปัญหา การเจริญเติบโตของจักรวรรดิเยอรมันสร้างความไม่พอใจแก่อดีตเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส ความขัดแย้งบานปลายจนกลายเป็นสงครามโลกครั้งแรก สงครามโลกฆ่าชีวิตผู้คนไปกว่าสิบล้านคน บาดเจ็บและสูญหายกว่าอีกสามสิบล้านคน แนะนำความล่มสลายมาสู่หลายอาณาจักร ทั้งผู้ชนะอย่างจักรวรรดิรัสเซียและผู้พ่ายแพ้อย่างจักรวรรดิเยอรมัน จักรวรรดิออตโตมัน และจักรวรรดิออสเตรียฮังการี
อย่างไรก็ตาม ในด้านการเมือง และการทหาร ยังมีก้างขวางคอสำคัญของอเมริกา คือ สหภาพโซเวียต ที่ใช้การเมืองคอมมิวนิส
นอกจากจีน มีการค้าดอกไม้ชนิดหนึ่งจากออตโตมัน คือดอกทิวลิป
จักรวรรดิจีนระส่ำระส่าย และล่มลสาย
ทุนนิยมเสรี นำโดย สหรัฐอเมริกา เป็นระบบเศรษฐกิจ ที่ส่วนใหญ่ก็มีระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย
บริการรวบรวมข้อมูลนักวิจัยและผลงานวิชาการเผยแพร่ที่เว็บไซต์ของห้องสมุด
ชาวอาณานิคมทั้งสิบสามแห่ง รวมกันประกาศอิสรภาพ เศรษฐกิจโลก 1000 ปี แยกตัวออกจากอังกฤษ ตั้งประเทศใหม่ เรียกว่า สหรัฐอเมริกา
ผลจากการพ่ายแพ้สงครามฝิ่นต่ออังกฤษ ทำให้จีนต้องเปิดเมืองท้าให้ชาติตะวันตก เข้ามาค้าขายได้อย่างเสรีโดยเสียภาษีนำเข้าไม่เกินร้อยละสองจุดห้า รวมทั้งเรือรบของชาติเหล่านี้สามารถเข้าออก ได้อย่างอิสระ แล้วจีนก็ประสบความพ่ายแพ้อีกครั้งในสงครามต่อมา ข่าวนี้ผู้ชนะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีขนาดเล็กกว่ามากอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นทำการปฏิวัติอุตสาหกรรมตามยุโรปจนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจแห่งเอเชีย